ทัศนะประวัติศาสตร์

ประเมินว่าโลกก่อตัวขึ้นเมื่อราว 4,540 ล้านปีก่อนจากเนบิวลาสุริยะ ร่วมกับดวงอาทิตย์และดาวเคราะห์ดวงอื่น ดวงจันทร์ก่อตัวขึ้นราว 20 ล้านปีให้หลัง ในตอนแรกโลกยังหลอมเหลวอยู่ แต่ชั้นนอกของดาวเคราะห์เย็นตัวลง เกิดเป็นเปลือกแข็ง การกำจัดแก๊สและกิจกรรมภูเขาไฟผลิตบรรยากาศยุคแรก ไอน้ำที่ควบคแน่น ซึ่งส่วนใหญ่หรือทั้งหมดมาจากน้ำแข็งจากดาวหาง ก่อให้เกิดมหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่น เชื่อกันว่าเคมีซึ่งมีพลังสูงผลิตโมเลกุลที่สามารถทำสำเนาตัวเองได้เมื่อราว 4,000 ล้านปีมาแล้ว
ทวีปก่อตัวขึ้น แล้วแตกออกแล้วเปลี่ยนรูปเมื่อพื้นผิวโลกเปลี่ยนรูปในห้วงหนึ่งร้อยล้านปี บางครั้งรวมกันเกิดเป็นมหาทวีป (supercontinent) ราว 750 ล้านปีก่อน มหาทวีปแรกสุดที่ทราบ คือ มหาทวีปโรดิเนีย เริ่มแยกออกจากกัน ภายหลังทวีปกลับมารวมกันเกิดเป็นแพนโนเทียซึ่งแตกออกเมื่อราว 540 ล้านปีก่อน และท้ายสุด พันเจีย ซึ่งแยกออกจากกันเมื่อราว 180 ล้านปีก่อน
มีหลักฐานสำคัญว่ากิริยาธารน้ำแข็งรุนแรงระหว่างยุคนีโอโพรเทอโรโซอิกปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของโลกใต้แผ่นน้ำแข็ง สมมุติฐานนี้เรียกว่า "โลกก้อนหิมะ" (Snowball Earth) และได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพราะเกิดขึ้นก่อนการระเบิดยุคแคมเบรียน (Cambrian explosion) ซึ่งสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์เริ่มเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วราว 530–540 ล้านปีก่อน
นับแต่การระเบิดยุคแคมเบรีนย มีการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ที่สามารถระบุได้แยกกันห้าครั้ง การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อราว 65 ล้านปีก่อน เมื่อการชนของอุกกาบาตอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ที่มิใช่สัตว์ปีกและสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่อื่น ๆ แต่เหลือสัตว์เล็ก เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ซึ่งในขณะนั้นรูปร่างคล้ายหนูผี ในห้วง 65 ล้านปีหลัง สิ่งมีชีวิตสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมมีความหลากหลายมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น